"บัวแก้ว"ปัดจับ"แพะ"คดีฆ่าทูตซาอุฯ หวังฟื้นสัมพันธ์2ประเทศ "สมเจตน์"อ้างอัยการให้น้องชายเสียสละ
อดีต คมช.จวกอัยการสั่งฟ้องสมคิดกับพวก หวังฟื้นความสัมพันธ์ไทย-ซาอุฯ ศาลให้ประกัน เจ้าตัวลั่นบริสุทธิ์พร้อมสู้ตามกระบวนการ กต.ปัดกดดันจับ"แพะ" เชื่อสองประเทศแน่นแฟ้นขึ้น
"บัวแก้ว"ปัดบี้จับ"แพะ"คดีฆ่าทูตซาอุฯ หวังฟื้นสัมพันธ์2ประเทศ
นาย ชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ถึงคดีสังหารนายโมฮัมหมัด อัลลูไวรี่ นักธุรกิจชาวซาอุดิอาระเบียและพระญาติกษัตริย์ไฟซาล ว่า ยืนยันว่า ดำเนินคดีดังกล่าวอย่างตรงไปตรงมา รัฐบาลไม่ได้เข้าไปแทรกแซง หรือกดดันกระบวนการยุติธรรม เพื่อจับคนผิดมาดำเนินคดีหวังฟื้นความสัมพันธ์ หลังอัยการมีคำสั่งฟ้อง พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พร้อมพวกรวม 5 คน แต่ยอมรับว่าขณะนี้ก็ถือเป็นการส่งสัญญาณที่ดีในการยกระดับความสัมพันธ์ ระหว่างไทยกับซาอุดิอาระเบีย โดยเชื่อว่าความสัมพันธ์จะพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น
ส่วน กรณีที่ พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม บอกว่าตกเป็นเหยื่อทางการเมืองนั้น นายชวนนท์กล่าวว่า เรื่องของคดีความ ไม่ขอก้าวก่าย ต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม ต้องปล่อยไปตามพยานหลักฐาน
"สมเจตน์"อ้างอัยการให้"สมคิด"เสียสละเพื่อรักษาสัมพันธ์ซาอุฯ
พล.อ.สม เจตน์ บุญถนอม อดีตหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 12 มกราคม ถึงกรณีที่อัยการสูงสุดสั่งฟ้อง พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พร้อมพวกรวม 5 คน ร่วมกันฆ่านักธุรกิจชาวซาอุดิอาระเบียว่า หลังจากอัยการสูงสูดสั่งฟ้องศาล ตนได้ประกันตัว พล.ต.ท.สมคิด ออกมาเพื่อต่อสู้คดี ทั้งนี้ เป็นที่น่าผิดสังเกตว่ากรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ รวมถึงสำนักอัยการสูงสุด มองดูแล้วไม่ได้ให้ความเป็นธรรมกับเรา แต่ให้ความสำคัญเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ การเอาเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ แล้วเอาเรื่องนี้มาเป็นสาเหตุบอกว่า ต้องมาเสียสละตรงนี้เพื่อให้ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศให้ดีขึ้น
"ประเทศ ซาอุดิอาระเบียเอาเรื่องแรงงานมาต่อรอง แม้จะบอกว่าไม่ได้เข้ามายุ่งเกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรม แต่อุปทูตฯ ก็เดินสายกดดัน และอ้างว่าหากคดีดังกล่าวมีความคืบหน้าจะมีผลต่อความสัมพันธ์ต่อประเทศ การพูดแบบนี้หรือที่บอกว่าไม่ได้กดดัน การพูดดังกล่าวถือเป็นการกดดันโดยปริยาย แต่ถือเป็นสิ่งที่ดี เมื่อเป็นแบบนี้เราก็ยินดีที่จะเข้ากระบวนการยุติธรรม แต่ปรากฏว่าทั้งกรมสอบสวนคดีพิเศษ และสำนักงานอัยการสูงสุด ไม่ได้ดำเนินการตามขั้นตอนที่ควรจะเป็น ประเด็นดังกล่าวเราจะไปต่อสู้กันในชั้นศาลต่อไป" พล.อ.สมเจตน์ กล่าว
ศาลให้ประกันสมคิดกับพวก-เจ้าตัวยันบริสุทธิ์พร้อมต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรม
ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมาเมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 12 มกราคมภายหลังศาลพิจารณาคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ขอประกันตัวที่ พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม ผบช.ภ.5 , พ.ต.อ.สรรักษ์ หรือสมชาย จูสนิท,พ.ต.อ.ประภาส ปิยะมงคล, พ.ต.ท.สุรเดช อุดมดี และ จ.ส.ต.ประสงค์ ทอรั้ง ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1 – 5 ตามลำดับ ผู้ต้องหาร่วมกันฆ่านายโมฮัมเหม็ด อัลรูไวลี่ นักธุรกิจชาวซาอุดิอาระเบีย โดยยื่นเงินสดคนละ 5 แสนบาทแล้ว ศาลมีคำสั่งปล่อยตัวชั่วคราวจำเลยทั้ง 5 โดยตีราคาประกันคนละ 5 แสนบาท โดยไม่มีเงื่อนไขในการประกันตัวแต่อย่างใด
พล.ต.ท .สมคิด กล่าวภายหลังได้ประกันตัวต่อศาลว่า ตนขอขอบคุณศาลที่ให้ความเป็นธรรม ยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีอุ้มฆ่านักธุรกิจซาอุฯ พร้อมปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา แต่ตนก็ได้เข้ามอบตัวเพื่อต่อสู้คดีและยินดีที่จะเข้าสู่กระบวนยุติธรรมอีก ครั้ง เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง พร้อมทั้งร้องขอความเป็นธรรมต่อศาล และขอเรียกร้องให้ทางอุปทูตซาอุฯ ตรวจสอบความถูกต้องในการสอบสวนตลอดจนพยานหลักฐานที่ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษนำ มากล่าวอ้างว่าตนกับพวกกระทำผิด เห็นว่าพยานดังกล่าวได้ให้การกลับไปกลับมา ตามกฎหมายนั้นจึงถือว่าคำให้การของพยานไม่น่าเชื่อถือ ประกอบกับพยานดังกล่าวมีหมายจับของศาลจังหวัดมีนบุรี ในคดีฆ่าผู้อื่น แต่ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษกลับปล่อยตัวไปโดยไม่มีการดำเนินคดี หากในชั้นศาลพยานหลบหนีไม่มาเบิกความต่อศาลหรือศาลตัดพยานปากนี้ออกไป จะทำให้ตนไม่มีโอกาสพิสูจน์ความจริง อย่างไรก็ตามตนจะต่อสู้คดีอย่างเต็มที่ในทุกข้อกล่าวหา
ด้าน นายนิติธร ล้ำเหลือ ทนายความ กล่าวว่า สำหรับแนวทางในการต่อสู้ทางคดีจะมุ่งไปใน 3 ประเด็นหลัก คือ ขณะเกิดเหตุจำเลยทั้ง 5 เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่การฟ้องร้องในคดีนี้ กลับไม่ได้ดำเนินคดีในข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่ โดยมิชอบ ตามประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 157 ประเด็นที่อัยการมีอำนาจพิจารณาฟ้องร้องอย่างถูกต้องหรือไม่ รวมทั้งประเด็นคำให้การของพยานซึ่งไม่มีการสอบสวนข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่าง ไร และแหวนที่เป็นของกลางในคดีก็ไม่ได้มาจากตัวจำเลย แต่กลับได้จากตัวพยาน ไม่มีการตรวจสอบว่าข้อเท็จจริงว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร รวมทั้งจำเลยทั้ง 5 ได้ขอดูแหวนที่เป็นของกลางในคดีแต่กลับถูกปฏิเสธ ตนเห็นว่าหากกระบวนการสอบสวนไม่ชอบด้วยกฏหมาย และหากไม่ได้คนร้ายตัวจริงมาดำเนินคดี เกรงว่าอาจจะกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศได้
อัยการสั่งฟ้อง"สมคิด"กับพวกรวม5คนคดีอุ้มฆ่านักธุรกิจซาอุฯ
เมื่อ เวลา10.00 น. วันที่ 12 มกราคม ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.รัชดาภิเษก นายธนพิชญ์ มูลพฤกษ์ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ และโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ได้นัด พล.ต.ท .สมคิด บุญถนอม ผบช.ภ.5 อายุ 57 ปี , พ.ต.อ.สรรักษ์ หรือสมชาย จูสนิท ผกก.สภ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน อายุ 53 ปี ,พ.ต.อ.ประภาส ปิยะมงคล อายุ 52 ปี ผกก.สภ.น้ำขุ่น จ.อุบลราชธานี อายุ 52 ปี , พ.ต.ท.สุรเดช อุดมดี นายตำรวจนอกราชการ อายุ 64 ปี และ จ.ส.ต.ประสงค์ ทอรั้ง อาชีพรับจ้าง อายุ 50 ปี ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1 – 5 ตามลำดับ ผู้ต้องหาร่วมกันฆ่านายโมฮัมเหม็ด อัลรูไวลี่(Mr.Mohammad Al - Ruwaily) นักธุรกิจชาวซาอุดิอาระเบีย พระญาติกษัตริย์ไฟซาล ซึ่งหายตัวไปอย่างลึกลับเมื่อเกือบ 20 ปีก่อน มาฟังการสั่งคดี โดยนายธนพิชญ์ ได้แจ้งให้ผู้ต้องหาทราบว่า คณะทำงานอัยการพิจารณาพยานหลักฐานแล้วมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งหมด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลัง จากที่อัยการมีความเห็นสั่งฟ้องดังกล่าว พล.ต.ท.สมคิด พร้อมพวกรวม 5 คน ได้เดินออกจากสำนักงานอัยการไปยังศาลอาญาโดยทันที โดย พล.ต.ท.สมคิด มีสีหน้าเรียบเฉย และไม่ยอมให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนแต่อย่างใด โดยกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า "ให้ไปถามอัยการเอง"
ต่อ มานายรุจ เขื่อนสุวรรณ อัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 1 ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 มายื่นฟ้องเป็นจำเลยต่อศาลอาญา ในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และเพื่อปกปิดการกระทำความผิดอื่นของตน และเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นความผิดทางอาญาที่ตนได้กระทำไว้ , ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตาย
ศาล อาญารับคำฟ้องไว้เป็นคดีหมายเลขดำที่ อ.119/2553 โดยศาลอธิบายคำฟ้องให้จำเลยทั้งห้าฟัง พร้อมสอบคำให้การจำเลยว่าจะรับสารภาพหรือปฏิเสธ ปรากฏว่าจำเลยทั้งห้าแถลงให้การปฏิเสธขอต่อสู้คดี โดยจัดเตรียมทนายความไว้เรียบร้อยแล้ว ศาลจึงนัดตรวจพยานหลักฐานในวันที่ 29 มี.ค.53 เวลา 09.00น.
ด้านนายธนพิชญ์ กล่าวภายหลังจากที่อัยการมีความเห็นสั่งฟ้องว่า หลังจากที่นายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ อัยการสูงสุด ได้ตั้งคณะทำงานเพื่อพิจารณาคดีนี้ โดยมีรองอัยการสูงสุด 2 ท่าน และอธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ รับผิดชอบการสั่งคดี ซึ่งจากการพิจารณาสำนวนคดีและพยานหลักฐานรวมทั้งพยานหลักฐานใหม่แล้ว คณะทำงานอัยการเห็นว่าผู้ต้องหาทั้ง 5 มีมูลความผิด ประกอบกับพยานหลักฐานมีน้ำหนักน่าเชื่อถือได้ จึงมีความเห็นสั่งฟ้อง พล.ต.ท.สมคิด พร้อมพวกรวม 5 คน
ส่วนกรณีที่ พล.ต.ท.สมคิด เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึง คณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ประกอบด้วย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รองปลัดกระทรวงยุติธรรม อดีตอธิบดีกรมสอบสวนพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย รองอธิบดีกรมสอบสวนพิเศษ พ.ต.ท.เบญจพล จันทวรรณ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ นายธนพิชญ์ มูลพฤกษ์ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ นายรุจ เขื่อนสุวรรณ อัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 1 กรณีการแจ้งข้อหา พล.ต.ท.สมคิด ว่ามีส่วนร่วมคดีการอุ้มฆ่านายโมฮัมเหม็ด ซึ่งเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและทำให้ได้รับความเสียหาย เมื่อวันที่ 11 ม.ค. ที่ผ่านมานั้น เห็นว่าเป็นสิทธิของผู้ต้องหาที่สามารถทำได้ ซึ่งทางอัยการก็จะแก้ต่างไปตามพยานหลักฐาน
ต่อมาทนายความของจำเลยทั้งห้า ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสดเพื่อขอประกันตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 จำนวน คนละ 500,000 บาท ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาคดีของศาล
รายงานข่าวแจ้งว่า คดีนี้เจ้าหน้าที่พบหลักฐานสำคัญชิ้นใหม่เป็นแหวนของนายอัลรูไวรี่
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1263270495&grpid=&catid=17
--
โปรดอ่านBlog
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=porpayia&month=12-2009&date=07&group=10&gblog=69
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=auntymod
http://www.bloggang.com/index.php?category=20
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=praewkwun&month=10-12-2009&group=27&gblog=15 นาฬิกา+ปฎิทิน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น