วันพฤหัสบดีที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2553

อินโดจีน อุบลฯ ร้านคนขยัน


วันที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2553 ปีที่ 19 ฉบับที่ 7001 ข่าวสดรายวัน


อินโดจีน อุบลฯ ร้านคนขยัน


สวรรค์ในครัว

เขียง มะขาม




หลังจากเกือบจะเปลี่ยนทะเบียนบ้านไปอยู่หนองคายมาเมื่อปลายปีก่อน

ต้นปีนี้ชีพจรก็ลงเท้าอีกหน ไปตุหรัดตุเหร่ อยู่แถวอุบลราชธานีอยู่เป็นพักๆ

บางวันไปเช้าบ่ายกลับ บางวันไปเช้าเย็นกลับ เลยไม่มีโอกาสลุยอุบลฯ แบบเต็มๆ

จนมาหนล่าสุดนี่แหละ ที่งานเริ่มเข้ารูปเข้ารอย จน "เจ๊ตา" เจ้าถิ่นอุบลฯ บอกว่าไม่ต้องกินข้าวกล่องกันเหมือนหนก่อน

หิ้วใส่รถไปร้านอร่อยประจำเมือง

ชื่อว่า "อินโดจีน" อยู่ที่ถนนสรรพสิทธิ์

ได้ยินชื่อปุ๊บก็ทายออกเลยสิว่าต้องขายอาหารตุรกีแน่ๆ ล้อเล่นน่ะ ต้องขายอาหารลาวกับเวียดนามแหงๆ

จริงๆ แล้วเป็นร้านเก่า ขายมาตั้งแต่รุ่นเตี่ย (เอ...เรียกเตี่ยจะถูกหรือเปล่านี่ เพราะเขามีเชื้อเวียดนาม)



อพยพกันมาตั้งแต่ก่อนจะเกิดสงครามเวียดนาม เดี๋ยวนี้เป็นไทยเต็มตัวเต็มใจไปแล้วทั้งครอบครัว

มาถึงรุ่นลูก ยิ่งสนุกเข้าไปใหญ่

จากร้านธรรมดา เดี๋ยวนี้ขยายใหญ่โต มีห้องแอร์ มีด้านหลัง

และมีชั้น 2 สำหรับคนคอเดียวกัน

หมายถึงคนชอบของเก่าน่ะนะ อย่าคิดมาก

ไม่ใช่ของเก่าวิลิศมาหรา แต่ว่าเป็นของเก่าแบบชาวบ้านชนบท ที่ไม่เก็บไว้มีแต่จะสูญหายไป

ทั้งถ้วยชามรามไห โอ่ง ล้อเกวียน ตั่ง ตู้ไม้กระดาน

จะ อยู่ใกล้ไกลในอีสาน เจ้าของร้านชื่อ "คุณหนอย" จะตามไปเก็บมาให้ได้ เก็บใส่ร้านไปก็บ่นไปว่าทำงานแล้วไม่เหลือตังค์ เพราะเอาไปซื้อของหมด

แต่ซื้อแล้วสุขใจ

ใครคอเดียวกันลองไปคุยกับแกเถอะ สามวันสามคืนไม่จบ

แต่เวลาที่ไม่ออกไปหาของ คุณเจ้าของร้านเขาก็ทำงานตัวเป็นเกลียว สมชื่อ "ขยันวิทย์" ที่พ่อตั้งให้

เอาว่า แหนมเนืองร้านนี้ไม่เหมือนใคร เพราะเขาปลูกข้าวทำแผ่นแป้งเองครับ

เหตุผล ก็คือ แผ่นแป้งที่ซื้อมานั้นยุ่ยไป และข้าวส่วนใหญ่ที่ปลูกในอุบลฯ หรือในอีสานใต้ เป็นข้าวหอมมะลิเสียส่วนมาก เอามาทำแป้งก็ยุ่ยอีกเหมือนกัน

เลยต้องลงทุนไปซื้อที่ ปลูกข้าวสุรินทร์ 1 ซึ่งเนื้อแข็งกว่ามาทำแป้ง

พอปลูกข้าวแล้วก็เลยปลูกข้าวเหนียวด้วย บางทีก็ลงข้าวโพดด้วย

เพราะฉะนั้น อย่าแปลกใจที่ร้านนี้จะมีข้าวเหนียวเปียกข้าวโพดเป็นของหวานขึ้นชื่อ

แถมที่ดินเหลือยังปลูกผัก ที่เป็นเครื่องเคียงแหนมเนืองและอาหารเวียดนามอื่นๆ

ถ้าผักไม่พอก็ไปทำ "คอนแทรกต์ ฟาร์มมิ่ง" กับชาวบ้าน มีข้อแม้ว่าผักต้องไม่ใส่สารเคมี

เพราะฉะนั้น อาหารเขากินได้สบายใจ

เปาะเปี๊ยะญวนทั้งสดและทอด แหนมเนือง กุ้งพันอ้อย ก๋วยจั๊บญวน เนื้อย่างใบชะพลู หรืออื่นๆ กินได้หมด

และที่เป็นทีเด็ดก็คือขนมถ้วยหน้ากุ้ง

ราคาก็ 40-50-60 เป็นส่วนใหญ่

วันนั้นกินเพลินจนลืมถ่ายรูป เลยต้องขอบคุณภาพจาก "คุณฟ้ากว้างทางไกล" ห้องก้นครัว พันทิบ

หน้าตาชวนน้ำลายไหลดีพิลึก


หน้า 21
http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROamIyd3dNakk1TURFMU13PT0=&sectionid=TURNd013PT0=&day=TWpBeE1DMHdNUzB5T1E9PQ==

--
โปรดอ่านBlog
http://www.muangboranjournal.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&p=920
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=porpayia&month=12-2009&date=07&group=10&gblog=69
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=auntymod
http://www.bloggang.com/index.php?category=20
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=praewkwun&month=10-12-2009&group=27&gblog=15 นาฬิกา+ปฎิทิน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น